แบ่งออกเป็นวรรคๆ วรรคหนึ่งมี 5 คำ
กฏ
1. บทหนึ่งๆมีตั้งแต่ 5 วรรคขึ้นไป จัดเป็นวรรคละ 5 คำ หรือจะเกิน 5 คำบ้างก็ได้ แต่ไม่ควรให้เกิน 5 จังหวะในการอ่าน จะแต่งยาวกี่วรรคก็ได้ แต่ตอนจบจะต้องเป็นโคลงสองสุภาพเสมอ
2. สัมผัสมีดังนี้คำสุดท้ายของวรรคหน้า ต้องสัมผัสผสมคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคถัดไป ทุกวรรค นอกจากตอนจบต้องให้สัมผัสแบบโคลงสองสุภาพ
3. เอกโท มีบังคับคำเอก ๓ แห่ง และคำโท ๓ แห่ง ตามแบบของโคลงสองสุภาพ
4. ถ้าคภที่ส่งสัมผัสเป็นคำเป็นหรือคำตาย คำที่รับสัมผัสจะต้องเป้นคำเป็นหรือคำตายด้วย และคำสุดท้ายของบทห้ามใช้คำตาย
5. เติมสร้อยในตอนสุดท้ายของบทได้อีก ๒ คำ หรือจะเติมทุกๆ วรรคก็ได้ แต่พอถึงโคลงสองต้องงด เว้นไว้แต่สร้อยของโคลงสองเอง สร้อยชนิดนี้จะต้องให้เหมือนกันทุกวรรคเรียกชื่อว่า สร้อยสลับวรรค
(หนังสืออ้างอิง รศ.วิเชียร เกษประทุม,2550,ลักษณะคำประพันธ์ไทย,สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา,หน้า 76-77)
ตัวอย่าง
ศรีสวัสดิเดชะ................ชนะราชอรินทร์
ยินพระยศเกริกไกร............เพียงพกแผ่นฟากฟ้า
หล้าล่มเลื่องชัยเชวง............เกรงพระเกียรติระย่อ
ฝ่อใจห้าวบมิหาญ...............ลาญใจแกล้วบมิกล้า
บค้าอาตม์ออกรงค์.............บคงอาตม์ออกฤทธิ์
ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ..............ไท้ทุกเขตทุกด้าว
น้าวมกุฏมานบ..................น้อมภิกพมานอบ
มอบบัวบาทวิบุล...............อดลยานุภาพ
ปราบดัสกรแกลนกลัว........หัวหั่นหายกายกลาด
ดาษเต็มท่งเต็มดอน..........พม่ามอญพ่ายหนี
ศรีอโยธยารมเยศ.............พิเศษสุขบำเทิง
สำเริงราชสถาน...............สำราญราชสถิต
พิพิธโภคสมบัติ...............พิพัฒน์โภคสมบูรณ์
พูนพิภพดับเข็ญ...............เย็นพิภพดับยุค
สนุกกสบสีมา..................ส่ำเสนาน้อมเกล้า
ส่ำสนมเฝ้าฝ่ายใน.............ส่ำพลไกรเกริกหาญ
ส่ำพลสารสินธพ.............สบศาสตราศรเพลิง
เถกิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า......ลือตรลบแหล่งหล้า
โลกล้วนสดุดี
(ลิลิตตะเลงพ่าย : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น